วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

บทที่3.พันธะเคมี(3.4)


พันธะโลหะ
                   จากการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นนักเรียนคงทราบแล้วว่าโลหะส่วนใหญ่มีสถานะเป็นของแข็ง มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูง นอกจากนี้โลหะสามารถนำไฟฟ้าและนำความร้อนได้ดี จากสมบัติที่กล่าวมาแล้วนักเรียนคิดว่าอะตอมของโลหะน่าจะยึดกันด้วยพันธะชนิดเดียวกับสารไอออนิกที่ได้ศึกษามาแล้วหรือไม่ ให้ศึกษาสมบัติบางประการของโลหะจากตาราง 2.16

ตาราง 2.16  สมบัติบางประการของสาร
สารตัวอย่างสมบัติของสาร
ลักษณะที่
ปรากฎ
การนำ
ไฟฟ้า
จุด
หลอมเหลว(oC)
จุดเดือด (oC)
สารประกอบ
ไอออนิก
  โซเดียมคลอไรด์
(NaCl)
ของแข็งสีขาวไม่นำ8011465
แคลเซียมฟลูออไรด์
\displaystyle (CaF_2) 
ของแข็งสีขาวไม่นำ14182533
โพแทสเซียมไอโอไดด์
(Kl)
ของแข็งสีขาวไม่นำ6811330
สาร
โคเวเลนต์
น้ำตาลทราย
\displaystyle C_12 H_22 O_11
ของแข็งสีขาวไม่นำ192 (สลายตัว) -
เอทานอล\displaystyle C_2 H_5 OHของเหลวใส
ไม่มีสี
ไม่นำ-114.178.3
แก๊สไฮโดรเจน \displaystyle H_2แก๊สไม่มีสี
ไม่มีกลิ่น
ไม่นำ-259-253
สารโครงผลึก-
ร่างตาข่าย
เพชร (C)ของแข็งใส
ไม่มีสี
ไม่นำ35504830
แกรไฟต์ (C)  ของแข็งสีดำนำ3727*3640
โลหะเหล็ก (Fe)ของแข็งสีเงินวาวนำ15352750
ทองแดง (Cu)ของแข็งสีน้ำตาลแดงนำ10852572
โครเมียม (Cr)ของแข็งสีเงินวาวนำ18572672


* ค่าที่แสดงเป็นค่าโดยประมาณที่ได้จากการทดลองภายใต้ความดันที่เหมาะสม

                    จากสมบัติของโลหะในตาราง 2.16  แสดงว่าอะตอมของโลหะควรยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะที่แตกต่างจากพันธะไอออนิกและพันธะโคเวเลนต์ สำหรับการเกิดพันธะในโลหะอธิบายได้ว่าอะตอมของโลหะมีค่าพลังงานไอออไนเซชันต่ำจึงเสียเวเลนซ์อิเล็กตรอนแล้วกลายเป็นไอออนบวกได้ง่าย เวเลนซ์อิเล็กตรอนที่หลุดออกมานี้สามารถเคลื่อนที่อย่างอิสระไปได้ทั่วทั้งก้อนโลหะ แรงยึดเหนี่ยวอย่างแข็งแรงระหว่างไอออนบวกกับเวเลนซ์อิเล็กตรอนที่เป็นอิสระนี้เรียกว่า พันธะโลหะ ดังนั้นความแข็งแรงของพันธะโลหะจึงขึ้นอยู่กับจำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนและประจุของไอออนบวกของโลหะแต่ละชนิดการเกิดพันธะในโลหะอาจแสดงได้ด้วยแบบจำลองทะเลอิเล็กตรอน ดังรูป 2.24


รูป 2.24  แบบจำลองทะเลอิเล็กตรอนในโลหะ

2.3.1  สมบัติของโลหะ
                   จากแบบจำลองทะเลอิเล็กตรอน จะเห็นว่าอะตอมของโลหะอยู่ค่อนข้างชิดกันและเรียงต่อเนื่องกันไม่มีที่สิ้นสุด โดยมีอิเล็กตรอนเคลื่อนที่ไปทั่วทั้งก้อนโลหะ ทำให้โลหะมีสมบัติเฉพาะตัวหลายประการที่แตกต่างจากสารอื่นเราอาจใช้แบบจำลองทะเลอิเล็กตรอนอธิบายสมบัติทางภายภาพของโลหะได้ เช่น โลหะสามารถนำความร้อนและไฟฟ้าได้ เนื่องจากเมื่อให้ความร้อนแก่โลหะ เวเลนซ์อิเล็กตรอนจะมีพลังงานสูงขึ้นจึงเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น เมื่อเกิดการชนกันจะถ่ายโอนพลังงานบางส่วนแก่กันและถูกถ่ายโอนต่อเนื่องกันไปจนทั่วก้อนโลหะ โลหะจึงนำความร้อนได้ และการที่โลหะมีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระทั่วทั้งก้อนโลหะ จึงทำให้โลหะนำไฟฟ้าได้ดี โลหะมีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูงเพราะว่าอะตอมโลหะยึดกันไว้อย่างแข็งแรงด้วยพันธะโลหะทุกอะตอม การหลอมเหลวหรือทำให้กลายเป็นไอจึงต้องใช้พลังงานสูงมาก เช่น การหลอมเหลวทองแดงต้องใช้อุณหภูมิสูงถึง 1085 \displaystyle  (^\circ C)และการทำให้ทองแดงเดือดกลายเป็นไอต้องใช้อุณหภูมิสูงถึง 2572 \displaystyle  (^\circ C)สำหรับการตีโลหะให้แผ่ออกเป็นแผ่นและดึงเป็นเส้นได้นั้นอธิบายได้ว่า อะตอมโลหะจัดเรียงตัวเป็นชั้นๆ อย่างมีระเบียบ การทุบแผ่นโลหะเป็นการผลักให้ชั้นของอะตอมโลหะเลื่อนไถลออกไปจากตำแหน่งเดิม ทำให้แผ่นโลหะยาวออกไปและบางลง แต่อะตอมของโลหะในตำแหน่งใหม่ไม่หลุดออกจากกันเพราะมีกลุ่มเวเลนซ์อิเล็กตรอนยึดอนุภาคเหล่านั้นไว้ ดังนั้นจึงตีโลหะให้แผ่ออกเป็นแผ่นบางๆ หรือดัดให้โค้งงอ หรือดึงเป็นเส้นได้ ดังรูป 2.25

รูป 2.25  การเลื่อนไถลของอะตอมโลหะเมื่อถูกแรงกระทำ


                 นอกจากนี้โลหะยังสามารถสะท้อนแสงได้ ซึ่งเกิดจากกลุ่มเวเลนซ์อิเล็กตรอนที่เคลื่อนที่ได้โดยอิสระ เมื่อกระทบกับแสงซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อิเล็กตรอนเหล่านั้นจะรับและปล่อยคลื่นแสงออกมา ผิวของโลหะจึงเป็นมันวาวและสะท้อนแสงได้ดี อย่างไรก็ตามยังมีสมบัติบางประการของโลหะที่ไม่สามารถใช้แบบจำลองนี้อธิบายได้ ซึ่งนักเรียนจะได้ศึกษาในระดับสูงต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น